สำเนาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
วันเสาร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2543
http://www.khaosod.co.th/ksnews.asp?nfile=p0120160943&selectdate=2000/09/16
Best View with Internet Explorer (IE4, IE5)



หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับประจำวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2543

Section

ข่าวหน้า1

บทนำ

คอลัมน์/จดหมาย

การเมือง

เศรษฐกิจ

ต่างประเทศ

กีฬา

สังคม

เยาวชน

บันเทิง

ภูมิภาค

ฉบับย้อนหลัง



สำนักพิมพ์

พบหนังสือหลากหลาย
นับร้อยรายการ
จาก
สำนักพิมพ์มติชน
เชิญชมที่นี่

สถาปนิกแจงรื้อรูปปูนปั้นร.ร.อัสสัมชัญ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก มีแถลงข่าวการรื้อถอนประติมากรรมรูปปูนปั้นติดผนังแบบนูนสูง โดยนายอัชชพล ดุสิตนานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสถาปนิก อัชชพล ดุสิตนานนท์ ในฐานะผู้รับผิดชอบพัฒนาตึกใหม่ กล่าวว่า ตนเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ สาเหตุที่ต้องปรับปรุงพื้นที่เพราะพื้นที่ของโรงเรียนคับแคบมาก มีแค่ 7 ไร่ แต่นักเรียนมีหลายพันคน อย่างไรก็ตาม เราศึกษาเรื่องนี้กันมา 7 ปีแล้ว การดำเนินงานในระยะแรกเป็นไปด้วยดี แต่พักหลังเริ่มมีปัญหาแค่วัตถุชิ้นเดียว ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่านี้คือคำสั่งสอนของศาสตราจารย์ ฮีแลร์

นายอัชชพล กล่าวต่อว่า เรื่องรูปปั้นนั้นตนพยายามหาผู้เชี่ยวชาญที่สุดเพื่อถอดแบบลงมาเก็บรักษา แล้วนำขึ้นไปติดตั้งในตึกใหม่เมื่อก่อสร้างเสร็จ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากกลุ่มผู้ชำนาญการด้านนี้ โดยเฉพาะบรรดาช่างหลวงที่ถือว่ามีฝีมือที่สุดว่า เรื่องนี้ต้องยกให้นายมานพ อมรวุฒิโรจน์ นายช่างศิลปกรรม 6 ส่วนประติมากรรม สถาบันศิลปกรรม กรมศิลปากร ตนจึงเชิญท่านมาร่วมงาน

ด้านนายมานพ อมรวุฒิโรจน์ ซึ่งเป็นผู้ถอดแบบรูปปั้น กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่ใช่ช่างไร้ฝีมืออย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่มีหน้าที่ดูแลอนุสาวรีย์ต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งถ้าทางโรงเรียนติดต่อมาที่กรมศิลปากร ตนจะต้องเป็นผู้ดูแลงานนี้อยู่ดี สำหรับอุปสรรคคือการอยู่บนที่สูง ทำให้นำลงมายากและเสี่ยงต่อชีวิตของคนงานด้วย ดังนั้น จึงต้องตัดแบ่งออกเป็น 8 ชิ้น แล้วยกลงทีละชิ้น เหตุที่ไม่นำลงมาทั้งหมดทีเดียวเพราะเห็นว่างานชิ้นนี้เป็นงานที่ใหญ่ และมีน้ำหนักมาก หากพลาดพลั้งทำหล่นจะเสียหายทั้งหมด ผิดกับการเคลื่อนย้ายทีละชิ้นที่ทำได้สะดวกและปลอดภัยกว่ามาก

นายมานพ กล่าวต่อว่า จากการทำงานพบรอยต่อของรูปปั้นด้วย เชื่อว่าตอนที่ยกขึ้นไปตอนแรกต้องตัดแยกชิ้นเช่นกัน สาเหตุที่ต้องเลื่อยแขนพระเยซู เพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่ดีสุด และการถอดแบบอนุสาวรีย์ทั่วประเทศก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน นอกจากนี้ เท่าที่ได้คุยกับอธิบดีกรมศิลปากร ท่านเห็นด้วย อย่างไรก็ตาม การรื้อถอนงานแต่ละครั้งต้องมีชำรุดบ้าง แต่สำหรับงานชิ้นนี้มีเสียหายแค่ 3-5% ถือว่าน้อยมาก

ด้านภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก กล่าวว่า กรณีที่มีการโจมตีว่าตนไม่ใช่ศิษย์เก่าแล้วไม่รักสถาบันนั้น ขอเรียนว่าตนเป็นศิษย์เก่าอัสสัมชัญคนหนึ่ง และสอนที่อัสสัมชัญบางรักอยู่หลายสิบปี มีความรักในสถาบันไม่ต่างจากศิษย์คนอื่น

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ที่ท้องพระโรง หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มีเสวนาเนื่องในวันศิลป์ พีระศรี หัวข้อเรื่อง "พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว กรณีประติมากรรมฝีมืออาจารย์ศิลป์และลูกศิษย์ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ" นำโดยนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียน ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญ นายสมศักดิ์ แตงพัน รักษาการหัวหน้ากลุ่มงานอนุรักษ์ศิลปกรรม สำนักงานโบราณคดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมฟังประมาณ 100 คน

นายสุลักษณ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วการเสวนาวันนี้น่าจะประกอบไปด้วยตัวแทนจากทางโรงเรียนด้วย เพราะการเสวนาคือการแสดงความคิด ไม่ใช่เรื่องอับอายอะไร แต่ที่ไม่มาแปลว่าอะไร และมีการไปให้ข่าวตัดหน้าการเสวนาครั้งนี้ แสดงถึงความฉ้อฉลอะไรหรือเปล่า ตนมองว่าจิตสำนึกของคนสมัยนี้เหมือนวัวลืมตีน ต้องการทำลายของเก่าที่ไม่ใช่ของตนแล้วสร้างสิ่งใหม่ คิดแต่เรื่องเงินและยึดวัตถุ ทุบตึกไปเพื่อสร้างอาคารใหม่ ทั้งที่หอประชุมเดิมก็อยู่ได้เป็นร้อยปี ตรงนี้ไม่ต่างจากที่พระสะสมรถเบนซ์ แสดงถึงการนับถือวัตถุ ผู้บริหารและอาจารย์ไม่เคยมีจิตสำนึก คิดถึงแต่การปลูกฝังความงามและความดีให้แก่ลูกศิษย์ คิดถึงแต่เรื่องแป๊ะเจี๊ย ในฐานะที่วันนี้เป็นวันครบรอบวันศิลป์ พีระศรี อยากถามว่าในฐานะลูกศิษย์ของสถาบันนี้ อยากจะทำอะไรเพื่อปกป้องความดีงามเหล่านี้ อย่าปล่อยให้กรมศิลปากรนอนหลับ ต้องปลุกให้ตื่น รีบมาขึ้นทะเบียนงานศิลปะ กระตุ้นสมาคมที่เกี่ยวข้องให้หันมาสนใจเรื่องนี้

บริการสืบค้นข้อมูลข่าวสาร
เปิดบริการแก่นักเรียน นิสิต
นักศึกษา และบุคคลทั่วไป
ให้บริการสืบค้นข้อมูลข่าวสาร
จากแฟ้มข่าวหนังสือพิมพ์
ทุกฉบับในเมืองไทย
พร้อมข่าวสารจากนิตยสาร
และสิ่งพิมพ์อื่นๆ
สอบถามรายละเอียด
589-0020 , 580-0021
ต่อ 1102,1105

mic@matichon.co.th



 

ทีมงาน come.to/assump และเพื่อน ๆ ขอแสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: ก่อนอ่านโปรดอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ของฉบับวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2543 ของทั้งสามสำนักข่าวอันประกอบด้วย ข่าวสด เดลินิวส์ และมติชน ก่อน

หากข้อความที่ทางหนังสือพิมพ์ได้กล่าวมาในข้างต้นเป็นความจริง พวกผมขอแสดงความคิดเห็นดังนี้

1) ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด การที่ท่านผู้จัดการบริษัทสถาปนิกผู้รับผิดชอบงานรื้อถอนกล่าวว่า "การดำเนินงานในระยะแรกเป็นไปด้วยดี แต่พักหลังเริ่มมีปัญหาแค่วัตถุชิ้นเดียว ทั้งที่ความจริงแล้วสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่านี้คือคำสั่งสอนของศาสตราจารย์ ฮีแลร์" พวกผมมีความเห็นพ้องและต่างกับท่านเล็กน้อย คือ สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าคือคำสอนของบราเดอร์ฮีแลร์จริง แต่รูปปั้นนี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัตถุชิ้นเดียว แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทั้งทางศิลปะ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของชาวอัสสัมชัญมาหลายสิบรุ่น ตัวพวกผมเองเห็นคุณค่าที่เป็นงานของท่านศิลป์ พีระศรี แต่พวกผมเห็นคุณค่าทางจิตใจของชาวอัสสัมชัญมากกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่คนนอกโจมตีการกระทำของโรงเรียนของเรา ทางพวกผมเองใส่ใจ แต่ไม่มากนักพวกผมใส่ใจในความรู้สึกของพวกเราอัสสัมชัญมากกว่าบุคคลภายนอก เพราะพวกผมถือว่าชาวอัสสัมชัญมีส่วนในการเป็นเจ้าของรูปปั้นรูปนี้ มิได้เป็นของผู้หนึ่งผู้ใด

2) ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดที่ท่านอธิการกลา่วว่าท่านเป็นครูในโรงเรียนมาหลายปี พวกผมคาดว่าเป็นจริงถ้าพวกเราคนหนึ่งจำไม่ผิดเขาเคยเห็นภาพของท่านในหนังสืออุโฆษสารฉบับเมื่อ 26 ปีที่แล้วส่วนที่ว่าเป็นศิษย์เก่าของอัสสัมชัญนั้น ทางพวกผมไม่พบข้อมูล แต่เป็นไปได้ว่าเมื่อก่อนท่านไม่ได้ใช้ชื่อดังปัจจุบันอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อในภายหลัง เพราะจากหนังสือทำเนียบอัสสัมชนิก สามารถสืบค้นเรียงตามชื่อหรือเรียงตามเลขประจำตัวเท่านั้น ไม่สามารถเรียงตามชื่อสกุลได้

3) ตามข่าวจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ที่ท่านอธิการกล่าวว่า "แต่เดิมตนไม่รู้ว่าเป็นผลงานของ ศ.ศิลป์ แต่เมื่อรู้แล้วจึงกำชับให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและใช้มืออาชีพในการดำเนินการ จึงไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด" พวกผมอ่านแล้วรู้สึกขัด ๆ ความรู้สึกเล็กน้อยคือ แทนที่ท่านจะมองเห็นความสำคัญในความรู้สึกของชาวอัสสัมชัญเรา แต่ท่านกลับให้ความสำคัญต่อบุคคลภายนอก (คือผู้ที่เป็นนักศิลปะ นัยว่าเป็นผู้ที่เห็นคุณค่าในผลงานศิลปะชิ้นนี้) มากยิ่งกว่า ทั้งนี้ความคิดเห็นของพวกผมทั้งสามข้อข้างต้นอาจจะผิด เนื่องจากเป็นไปได้ว่าข่าวที่ลงมาในหน้าหนังสือพิมพ์นั้น อาจเป็นเพียงถ้อยคำบางส่วนเท่านั้น หรืออาจจะมีข้อมูลข่าวที่ไม่ถูกต้อง

4) ขอให้ท่านที่เกี่ยวข้องทราบว่า การที่พวกผมศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นตลอดมาร่วมเดือนกว่าที่ผ่านมาทั้งทางหนังสือพิมพ์ หน้าเว็ปไซด์ต่าง ๆ และในกระดานสนทนา http://acboard.hypermart.net นั้น เป็นเพราะพวกเรามีความรักและหวงแหนในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโรงเรียนเรา พวกเรามีจุดประสุงค์เช่นเดียวกันคือต้องการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเรารักอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ไม่เกิดความเสียหาย

5) สิ่งที่ทางโรงเรียนทำผิดพลาดและก่อให้เกิดกระแสต่อต้านตามมามากมายคือ การที่ไม่มีการแจกแจงรายละเอียด กำหนดการ ขั้นตอน วิธีการที่จะทำการรื้อถอนให้ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันได้รับทราบ หากมีการชี้แจงให้พวกเราได้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นย่อมไม่มากเท่านี้ อีกทั้งภายหลังเมื่อเกิดปัญหาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากตามมา กลับไม่มีการออกมาแสดงข้อเท็จจริงจากท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทันที สิ่งที่ทำกลับเป็นการปิดข่าวสาร ทำให้ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันสับสนเป็นอันมาก

6) นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกข้อหนึ่งที่ยังค้างคาอยู่คือ ก่อนหน้าที่จะมีการรื้อถอน ทางหน่วยงานของกรมศิลป์ ได้แสดงความจำนงในการที่จะเป็นผู้จัดการนำรูปปั้น ฯ ลงมาและหากเป็นจริง (หรือไม่มีการเสนอตัวของหน่วยงานของกรมศิลป์เข้ามาก็ตาม) ทำไมทางผู้บริหารโรงเรียนถึงไม่ให้ทางกรมศิลป์เข้ามาช่วยดูแลดำเนินการ

Count since 17 Sep 2000 (This page only):